วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทดสอบกลางภาคเรียน

ทดสอบกลางภาคเรียน
ให้นักศึกษาทำข้อสอบต่อไปนี้ ลงในบล็อกของนักศึกษา 20 คะแนน
1.
การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  วิชาเรียนไม่กำหนดตายตัว ผู้ชายนิยมบวชเรียน ส่วนผู้หญิงนิยมเรียนเย็บปักถักร้อย สถานที่เรียนมี 4 สถานที่ คือ 
1.บ้าน บิดามารมีหน้าที่บ่มเพาะบุตรหลานเป็นบุคคลที่ดี
2. วัด ป็นสถานที่ที่ศึกษาสำหรับผู้ชายเป็นพระเพื่อศึกษาพระไตรปิฏก จริยธรรม คุณธรรม ส่วนผู้หญิงจะเรียนที่หอเรือน  ศึกษาเกี่ยวกับฝึกความเป็นกุลสตรี การเย็บปักถักร้อย เพื่อจะเป็นภรรยาที่ดีของสามี
3. สำนักราชบัณฑิต  สำหรับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้นมา
4. วัง ศึกษาเกี่ยวกับยุทธหัตถี การปกครองบ้านเมือง

2.
สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ  ต่างกัน สมัยสุโขทัยเริ่มมีการประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นมา อีกทั้งมีสถานที่เรียนด้วยกัน 3 แห่งคือ วัด สำนักปราชญ์ราชบัณฑิต และราชสำนัก นอกจากนั้นยังได้จัดแบ่งการศึกษาเป็น 4 องค์คือ จริยศึกษา พลศึกษา พุทธิศึกษา และหัตถศึกษา ซึ่งเน้นเกี่ยวกับหลักคำสอนของพุทธศาสนา ส่วนในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นมีความก้าวหน้ามาก มีการแต่งหนังสือแบบเรียนขึ้นมาเป็นเล่มแรก คือ หนังสือจินดามณี และยังมีการติดต่อกับฝรั่ง ส่งผลให้มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ขึ้นอีกด้วย

3.
อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ การเข้ามาเผยแพร่ศาสนาอย่างจริงจัง โดยมีการจัดตั้งโรงเรียนขึ้น นอกจากนั้นยังได้สอนวิชาการแบบยุโรป ซึ่งเป็นวิชาการศึกษาที่มีความล้ำสมัย
4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ เริ่มมีการนำวิทยาการใหม่ๆเข้ามา มีการจัดพิมพ์ตำราเรียน นับเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการศึกษาของไทย

5.
แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ "จินดามณี" เกิดในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 ตรงกับรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากพระองค์ทรงเกรงว่าคนไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง จึงทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนเองขึ้น

6.
การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ การกำหนดขอบเขตการศึกษาขั้นต่ำให้แก่ประชาชนทุกคน เพราะว่าการศึกษาเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการพัฒนาคุณภาพของมนุษย์

7.
การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ การศึกษาที่มีองค์ประกอบในการศึกษาที่พร้อม ครบถ้วน ซึ่งมาติกาการศึกษามีอยู่ด้วยกัน 8 มาติกา คือ
    1) ตำบลที่เล่าเรียน ในอดีตคือ ที่ตั้งของวัด และในปัจจุบันคือ ที่ตั้งของโรงเรียน
    2) โรงเรียน ในอดีตคือ ที่เรียนในวัด
    3) นักเรียนและครู ในอดีตมี 3 ประเภท คือ พรภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
    4) เวลาเรียน ในอดีตคือ ตอนพระว่าง และในปัจจุบันคือ เวลา 08.00-16.00 น.โดยประมาณ
    5) เครื่องเล่าเรียน ในอดีตคือ กระดานฉนวน ดินสอพอ ปากกาไม้ไผ่ เป็นต้น และในปัจจุบันคือ ปากกา ดินสอ กระดาษ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
    6) วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
    7) วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
    8) ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัยในการเรียน การชมเชย และการลงโทษ

8.
การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากประเทศนั้นต้องการหาคนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ารับราชการ เพราะต้องการพัฒนาประเทศและการศึกษาให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
9.
การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะมีการแบ่งขอบเขตในการพัฒนาการศึกษาอย่างชัดเจน คือ การประกาศเขตพื้นที่การศึกษา อีกทั้งการกระจายอำนาจให้สถานศึกษา ทำให้ประชาชนมีสิทธิในการศึกษาหาความรู้อย่างเท่าเทียมกัน และการจัดการศึกษาได้มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เรียนมีศักยภาพสูงขึ้นจากเดิม
10.
ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง

ตอบ ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การสร้างความตระหนักในหลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เตรียมบุคลากรครูและนักเรียนเพื่อรับรองและขยายโอกาสทางการศึกษา ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีความแตกต่างทั้งด้านภาษาและวัฒธรรม และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น